นโยบายการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
กรมเจ้าท่า (ต่อไปในประกาศนี้เรียกว่า "กรม") ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล และ ข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับท่าน เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่ากรมมีความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และฉบับปรับปรุง แก้ไข รวมถึงกฎหมายอื่น ("กฎหมายุค้มครองข้อมูลส่วนบุคคล") ที่เกี่ยวข้อง คำประกาศเกี่ยวกับความเป็น ส่วนตัว ("ประกาศ") กรมซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลนี้ จึงได้จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงให้ท่านทราบถึง รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า "ประมวลผล") ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ดำเนินการโดยกรม รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ดำเนินการแทน หรือในนามของกรม โดยมีเนื้อหา สาระดังต่อไปนี้
ข้อกำหนดและเงื่อนไข
-
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลทั่วไป หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ -
วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อให้บริการตรงตามต้องการของผู้ใช้บริการ กรมจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อที่ผู้ใช้บริการจะสามารถได้รับข้อมูลข่าวสารและ/หรือบริการที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้บริการตามที่ผู้ใช้บริการร้องขอ ในกรณีดังต่อไปนี้- การพิจารณาอนุมัติและ/หรือให้บริการต่าง ๆ เช่น การเข้าร่วมกิจกรรม การสมัครเข้าร่วมสัมมนา การประชุม การใช้ข้อมูลเพื่อจัดการค่าใช้จ่ายจากการสัมมนา การประชาสัมพันธ์ การเชิญชวนเข้าร่วมโครงการ การส่งข้อมูลข่าวสารของกรม
- การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลข่าวสารและ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น ปรับแก้ไขข้อมูล การติดต่อ การแจ้ง การประสานงาน การเชื่อมโยงข้อมูล รวมถึงการรับ-ส่งข้อมูลดิจิทัลระหว่างหน่วยงาน
- เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายคอมพิวเตอร์ เป็นต้น กรมมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลผู้ใช้บริการ ข้อมูลหนังสือ นอกจากนี้ กรมมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงกรมอาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ หากผู้ใช้บริการปฏิเสธไม่ยินยอมให้ข้อมูลแก่กรม อาจทำให้กรมไม่สามารถจัดหาข้อมูลข่าวสารและ/หรือให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกรม หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น- การรักษาความสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการ เช่น การให้บริการลูกค้า การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลผู้ใช้บริการโดยเจ้าหน้าที่ของกรม การสื่อสารหรือนำเสนอข้อมูลข่าวสารและ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ผู้ใช้บริการมีอยู่กับกรมซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการเป็นระยะ ๆ
- การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทุจริต การคุกคามทางไซเบอร์ การฟอกเงิน และกฎหมายอื่น ๆ
- การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)
- วัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ต่อสังคม กรมมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติหรือประชาสัมพันธ์กรม เช่น บันทึกการร่วมกิจกรรมสัมมนา อบรม และการประชุม
ในกรณีที่ผู้ใช้บริการปฏิเสธไม่ยินยอมให้ข้อมูลแก่กรม อาจทำให้กรมไม่สามารถให้บริการผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความคาดหวังของผู้ใช้บริการ -
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
- จากผู้ใช้บริการโดยตรง เช่น ข้อมูลที่ผู้ใช้บริการกรอกขณะลงทะเบียนสมัครใช้บริการ ข้อมูลที่ใช้ในการสมัครใช้บริการสมาชิก, หรือข้อมูลที่ได้จากการที่ผู้ใช้บริการติดต่อกับผู้ใช้บริการอื่น ๆ ข้อมูลจากการใช้ข้อมูลข่าวสาร และ/หรือบริการของกรม การติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านเว็บไซต์ และช่องทางอื่น ๆ ของกรม ตลอดจนข้อมูลในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในแพลตฟอร์ม, การทำสำรวจ, งานสัมมนา และ การประชุม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ของกรม
- เทคโนโลยีการติดตาม (tracking technology) เมื่อลูกค้าใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของกรม
- สมาชิกในกรม
- บุคคลภายนอก เช่น- หน่วยงานของรัฐ/เอกชน
- ผู้ประกอบการ
- ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
- ให้บริการข้อมูล
- โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์ม และผู้ให้บริการโฆษณาต่าง ๆ
-
ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
กรมจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้เสร็จสิ้น เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่า ซึ่งอาจมีกำหนดประมาณ 5 – 10 ปี หรือเกินกว่านั้นเท่าที่จำเป็น เช่น ตามอายุความที่กฎหมายกำหนดสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินคดี หรือเพื่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่กำกับดูแล -
กรมจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการก่อน
อย่างไรก็ดี ผู้ใช้บริการรับทราบและยินยอมว่า เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
กรมอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้กับบุคคลต่อไปนี้
- เจ้าหน้าที่ในกรม
- ผู้รับจ้างที่กรมว่าจ้าง
- พันธมิตรทางธุรกิจ
- ผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูล ทั้งในและต่างประเทศ
- หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมได้รับจากผู้ใช้บริการ จะถูกเก็บไว้บนศูนย์ข้อมูล (Cloud) ของผู้ให้บริการประมวลข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ทั้งนี้ การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการของกรมไปยังผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูลภายนอกดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษา การสำรองข้อมูล บริการเรียกข้อมูล และเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ ซึ่งกรมได้ตรวจสอบและเลือกผู้ให้บริการอย่างรอบคอบและมีข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและขอบเขตการประมวลผลข้อมูลกับผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่ผู้ใช้บริการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่กรม จะถือว่าผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมในการถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดนและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น อย่างไรก็ดี หากผู้ใช้บริการเชื่อว่าบุคคลที่กรมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามข้างต้น ได้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่กรมได้กำหนดไว้ ผู้ใช้บริการสามารถแจ้งกรมตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ กรมอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลผู้ใช้บริการ รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการของกรม ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร กรมอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่กรมเก็บรวบรวมไว้ไปยังส่วนที่เกี่ยวข้อง -
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานในสังกัดกรมพาณิชย์
หรือส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กรมอาจจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ที่กรมเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยไปยังหน่วยงานในสังกัดกรมพาณิชย์ หรือส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหน่วยงานปลายทางที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด -
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
การแก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการสามารถแก้ไขหรือแจ้งลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ตลอดเวลาผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ เพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับกรม หรือดำเนินการ ทั้งนี้ การลบข้อมูลอาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากกรมได้ หรืออาจทำให้การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพตามความคาดหวังของผู้ใช้บริการ
ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากระบบหรือฐานข้อมูลผู้ใช้บริการของกรมนั้น กรมจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นจะเสี่ยงต่อการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการตรวจสอบหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือเพื่อเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ
อย่างไรก็ดี แม้ว่ากรมจะได้ดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการแล้ว ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงมีการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) หรือสื่อจัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ ของกรม เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ
การขอเข้าถึง และขอสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ของข้อมูลส่วนบุคคล การขอให้เปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ การจำกัดหรือระงับการใช้ การปฏิเสธการประมวลผลข้อมูล ผู้ใช้บริการสามารแจ้งผ่านแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” ผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการเพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับกรมได้
การยกเลิกความยินยอม ผู้ใช้บริการสามารถถอนความยินยอมของผู้ใช้บริการที่ได้ให้แก่กรมเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลหรือกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการรับข้อมูลและข่าวสารประชาสัมพันธ์จากกรมได้ทุกเวลาด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ
การร้องเรียน ผู้ใช้บริการมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่กรมกรมหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของกรมหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าวผลการเพิกถอนความยินยอม โดยแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเพิกถอนความยินยอมให้กรมเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น โดยแจ้งให้กรมทราบและกรมอาจขอทราบถึงเหตุผลแห่งการนั้น การเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น ทั้งนี้เมื่อเพิกถอนความยินยอมให้กรมเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้นแล้ว บัญชีผู้ใช้งานของเจ้าของข้อมูลจะถูกระงับการใช้งานและไม่สามารถเข้าใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ผ่านช่องทางที่กรมเปิดให้บริการได้
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ที่จะเพิกถอนความยินยอม ให้กรมเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะมีผลกระทบต่อผู้เพิกถอนการให้ความยินยอมเกี่ยวกับการพิจารณารับประกันภัย หรือการให้บริการลูกค้าหรือการให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย และส่งผลให้กรมไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยได้
-
ช่องทางติดต่อ
ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อกรมได้ตามที่อยู่ต่อไปนี้ 1278 ถ. โยธา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 ประเทศไทย หรือ เว็บไซต์ https://md.go.th
เพื่อให้การปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของกรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ หากผู้ใช้บริการมีข้อสงสัยหรือข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติของกรมเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการสามารถแจ้งกรมได้ผ่านช่องทางที่ได้ประกาศไว้ในเว็บไซต์ https://md.go.th
ตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชนกับกรมการปกครอง
กรมเจ้าท่า ไม่ได้เก็บข้อมูล Laser Code 12 หลักด้านหลังบัตร แต่จะทำการเก็บข้อมูลแค่ตัวอักษรด้านหน้าและด้านหลังอย่างละตัวอักษรเช่น AB0123456789 จะเก็บแค่ A----------9 เพื่อใช้ตรวจสอบเท่านั้น